ทริปหลวงพระบางนี้เป็นทริปแรกของปี56 เหตุเกิดจากโปรโมชั่น 0 บาทของสายการบิน Airasia เจ้าประจำเช่นเคยโดยจองตั๋วโปรโมชั่นไว้ประมาณกลางปี55 เดินทางต้นปี56 สำหรับประเทศลาวครั้งนี้เป็นครั้งที่สองของผมครั้งแรกผมไปได้แค่ “วังเวียง” (ดูรีวิวทริปวังเวียงผมได้ที่ https://yutphuket.wordpress.com/2009/09/24/laos-vangvieng/) ครั้งนั้นผมมีเวลาน้อยตั้งใจกว่าจะไปหลวงพระบางแต่ไม่สามารถไปได้ โดยการเดินทางครั้งเริ่มบินจาก “ภูเก็ต-อุดรธานี”
ทริปนี้เป็นทริปสั้นๆประมาณ 5 วัน โดยทริปคราว บินจากภูเก็ต ถึงอุดรธานี จากนั้นนั่งรถจากสนามบินอุดรธานีไปยังด่านมิตรภาพไทยลาวแล้วเข้าเวียงจันทร์นอน เวียงจันทร์ 1 คืนเย็นของอีกวันนั่งรถนอนไปยังหลวงพระบาง นอนหลวงพระบาง 2 คืน จากขากลังจากหลวงพระบางมายังเวียงจันทร์เราบินกลับไฟล์เช้าถึงเวียงจันทร์นั่งรถกลับมายังอุดร แล้วต่อไฟล์กลับจากอุดรมาภูเก็ตเที่ยวไฟล์กลางคืน..
สำหรับประเทศลาวเป็นประเทศที่ไปเที่ยวด้วยตัวเองได้เลย เพราะการสื่อสารใช้ภาษาไทยสื่อสารกับคนลาวได้เลย อีกทั้งสามารถใช้เงินไทยในการใช้จ่ายสะดวกไม่ต้องแลกเงินลาว เที่ยวประเทศลาวก็เหมือนเที่ยวเมืองไทยบ้านเราเลย
ทริปนี้ผมจองตั๋วแอร์เอเชีย “ภูเก็ต-อุดร” ค่าตั่วไปกลับประมาณไม่กี่ร้อยบาท ไฟล์ FD3984 ออกจาก ภูเก็ต 14:40น. ถึง อุดรธานี 16:20น. สภาพสนามบินภูเก็ต ณ ปัจจุบันเล็กและแออัดวุ่นวายเป็นอย่างมากเหมือนสถานีขนส่งหมอชิตเลย…ได้ข่าวมาว่าตอนนี้มีโครงการขยายสนามบินภูเก็ตผมหวังว่าการปรับปรุงขยายครั้งนี้คงจะใหญ่สมกับคำว่า “สนามบินนานาชาติ” น่ะครับ
หลังจากถึงสนามบินอุดรพอเรารับกระเป๋าเสร็จแล้วและเราเดินออกมาจากสนามบินก็จะมีคิวรถตู้จากสนามบินไปยังด่านมิตรภาพไทย-ลาว ที่หนองคายค่าโดยสารอยู่ที่ 200 บาทต่อคนสะดวกรวดเร็วดี พอผ่านพิธีการทางตรวจคนเข้าเมืองทั้งไทยและลาวแล้ว เราสามารถหารถพวกแท็กซี่ที่ด่านลาวเข้าเมืองเวียงจันทร์ได้เลย พวกเราถึงเวียงจันทร์ประมาณเกือบ 1 ทุ่ม Check In เข้าโรงแรม
คืนนี้เรานอนที่เวียงจันทร์ 1 คืนเราพักที่ i House Hotel เป็นเกสเฮ้าส์เล็กๆกลางเมืองเวียงจันทร์อยู่แถวๆน้ำพุ สามารถเดินหาของกินได้สะดวกสบาย
เช้าวันรุ่งขึ้นเราได้เช่าจักรยานปั่นรอบเมืองเวียงจันทร์ ผ่านไปเห็นสาวลาวกลุ่มนี้น่ารักดี…แม่สาวลาววัยรุ่นยังพอมีให้เห็นแต่งตัวแบบนุ่งผ้าซิ่น ตามแบบฉบับสาวชาวลาว
เราปั่นจักรยานมาได้สักพักก็มาถึงยังประตูชัย สถาปัตยกรรมของประตูชัย ได้รับอิทธิพลมาจากประตูชัยที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
เราขึ้นมายังชั้นบนสุดของประตูชัยสามารถมองเห็นวิวมุมสูงของเมืองเวียงจันทร์
ลวดลายบนหลังคาประตูชัย
ได้เวลาเดินทางไปยังหลวงพระบางแล้ว จากเวียงจันทร์เราใช้บริการรถบัสแบบนอน หรือที่เรียกว่า sleeping bus ราคาอยู่ที่ 200000 กีบ ราคานี้รวมรถรับจากโรงแรมที่พักไปยังสถานีขนส่ง…. ราคาที่ขายกันถ้าไปซื้อเองอยู่ 150000 กีบ ผมมองแล้วว่าไหนจะค่ารถจากโรงแรมไปสถานีขนส่งอีก รวมกันแล้วราคาก็พอกันเลยแถมได้ความสะดวกไม่ต้องไปซื้อเอง
ตารางเวลาและราคา การเดินรถเส้นทางเวียงจันทร์ไปหลวงพระบาง
มองสภาพรถจากภายนอกมันเหมือนรถบัส VIP 24 ที่นั่งบ้านเราผมยังงงว่ามันจะนอนได้ไง พอเข้าไปยังในรถต้องบอกว่าไม่น่าเชื่อว่ามันทำเป็นแบบเตียงนอนได้แบบสองชั้น
เรามาถึงหลวงพระบางตอนสักประมาณ 6 โมงเช้าอากาศที่หลวงพระบางเย็นสบายจากสถานีขนส่งเราใช้บริการรถจัมโบ้ให้ไปส่งที่โรงแรมเราได้จองโรงแรม “หลวงพระบาง เบเกอรี่ แอนด์ เกสท์เฮ้าส์” (Luang Prabang Bakery & Guest House)
หลวงพระบาง เบเกอรี่ แอนด์ เกสท์เฮ้าส์ (Luang Prabang Bakery & Guest House) ด้านล่างของ Guest House จะเป็นร้านขายพวกเบเกอรี่อร่อยพอสมควร ห้องพักไม่ใหญ่มากแต่สะอาด น่าพักดีครับ
หลังจาก Check In เข้าที่พักเก็บข้าวของอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินสำรวจตลาดเช้าหลวงพระบาง ส่วนใหญ่จะขายพวกของของสด กบ เขียด ปลา เป็นๆ และผักนานาชนิด
สินค้าส่วนใหญ่ผมคิดว่าแม่ค้าเขาน่าจะปลูกเองแล้วเอามาขาย
กบเขียดเสียบไม้..
อาหารการกินก็มีให้เลือกซื้อ
ไปหลวงพระบางครั้งนี้ได้เช่ามอเตอร์ไซต์ขับเที่ยวทั่วหลวงพระบาง ราคาเช่ามอเตอร์ไซต์แบบเกียร์ Auto จะอยู่ที่ 20US ต่อวัน ถ้าเกียร์ธรรมดาจะอยู่ที่ 15US ต่อวัน
ในการเช่ามอเตอร์ไซต์ของผมครั้งนี้คือไปยัง “น้ำตกกวางสี” ระยะทางจากหลวงพระบางออกนอกเมืองไป 30กิโลเมตร ค่อนข้างจะไกลมาก โดยปกติทั่วไปสามารถซื้อทัวร์ในตัวเมืองหลวงพระบางได้เลย
น้ำตกกวางสี เป็นน้ำตกที่มีความใหญ่มาก และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในหลวงพระบาง ด้วยสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่เต้มไปด้วยป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ ลักษณะเป็นน้ำตก หินปูน สูงราว 70 เมตร
ความสวยงามของน้ำตกกวางสี ไม่เสียแรงที่ขับมาตั้งไกลคุ้มค่าจริงๆ
ความงามอีกมุมของน้ำตกกวางสี
เรากลับจากน้ำตกกวางสีแล้วจากนั้นผมก็ขึ้นพระธาตุพูสีต่อเลยเพราะใกล้จะเย็น บนพระธาตุพูสีจะมองเห็นวิวมุมสูงรอบเมืองหลวงพระบาง
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ขึ้นมายังพระธาตุพูสีช่วงเย็นเพื่อมาดูพระอาทิตย์ตกเดิน เขาว่าวิวจากพระธาตุพูสีจะมองเห็นพระอาทิตย์ตกดินริมแม่น้ำโขงที่สวยงามมาก
ตอนค่ำของทุกวันจะมีตลาดกลางคืนจะมีขายของเยอะมากมายส่วนใหญ่จะเป็นของที่ระลึก
หลวงพระบางบุฟเฟ่ต์ อิ่มล่ะ10000กีบ ตกเป็นเงินไทย 40 บาท สามารถเลือกตักใส่จานได้หมดเลยแต่ตักได้ครั้งเดียวเท่านั้น ราคานี้ถูกใจฝรั่งแบกเป้
เบียร์ลาวหรือคนลาวเรียกว่า “เบยลาว” ใครที่เป็นคอเบียร์มาเที่ยวลาวแล้วไม่ได้กินเบียร์ลาวถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงเป็นอย่างมาก อิอิ
เช้านี้เราตื่นนอนตั้งแต่ตี5 เพื่อรอตักบาตรข้าวเหนียว เป็นหนึ่งในกิจกรรมของหลวงพระบางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง.ชาวหลวงพระบางได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลาช้านาน
หลังจากเสร็จกิจกรรมตักบาตรข้าวเหนียวแล้ว..เรามาเดินเล่นริมฝั่งแม่น้ำโขง
เราจะเห็นเรือโดยสารจอดอยู่เรียงรายริมฝั่งแม่น้ำโขง
วิถีชีวิตคนหลวงพระบาง
วัดวาอารามในหลวงพระบางเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว ศิลปสถาปัตยกรรม ของวัดในหลวงพระบางจะไม่เหมือนของไทย
ที่หลวงพระบางเราจะเห็น เณร หรือพระ จำนวนมากเดินตามท้องถนนที่หลวงพระบาง เพราะที่หลวงพระบางจะมีการสอนศาสนากันตามวัดต่างๆ
กาแฟประชานิยมที่เมืองหลวงพระบางริมถนนสีสว่างวง และ ติดริมน้ำโขง ทางแยกตลาดเช้าจะขายพวก ชา กาแฟ ปลาท่องโก๋ ข้าวต้ม ร้านนี้เป็นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะคนไทย
ที่ประเทศลาว วุฒิ ศักดิ์ คลีนิกยังมาเปิดสาขาที่ลาวเลย
เช้าวันสุดท้ายเราเดินทางกลับจากหลวงพระบางไปยังเวียงจันทร์เราใช้บริการสายการบินลาวแอร์ไลน์…
วันสุดท้ายของทริปจากเวียงจันทร์เรานั่งรถเข้ามายัง อุดรธานี เพื่อต่อไฟล์กลับภูเก็ต….
จบทริปหลวงพระบางครั้งนี้ผมประทับใจในการใช้ชีวิตของผู้คนที่หลวงพระบางเรียบง่าย ไม่วุ่นวายสำหรับคนที่จะไปเที่ยวพักผ่อนใช้ชีวิตสบายๆผมว่า”หลวงพระบาง” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าจะลองมาเที่ยวกันดู
หมวดหมู่:ลาว
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ อยากไปเที่ยวบ้างจัง
ถูกใจถูกใจ