ผลจากโปรโมชั่นตั๋ว 0 บาทของAirasiaเมื่อปีที่แล้วทำให้เกิดทริปแรกของปี54 ของผมปีนี้ก็คือทริป “หยวนหยาง ซาปา ฮานอย เวียดนาม” จองตั๋วเครื่องบินไปและกลับจาก “ภูเก็ต-กรุงเทพ” “กรุงเทพ-ฮานอย” ราคาเพียงแค่สามพันกว่าบาทเองถูกๆๆๆเหลือเกินใครจะห้ามใจไม่จองช่ายมั้ย สำหรับเมืองฮานอย เวียดนาม ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองของผมเพราะผมเคยไปเมื่อปี2550 ก็ไปกับโปร 0 บาทของ Airasia เหมือนเดิม (ดูรูปได้ที่ http://konphuket.multiply.com/photos/album/8/Hanoi)
การไปครั้งนี้เราไปด้วยกัน 9 วัน พร้อมสมาชิกทั้งหมด 10 คน โดยทริปคราวนี้เราวางแผนไว้ว่าจะข้ามไปยังจีนติดกับชายแดนของเวียดนามก็คือเมือง “หยวนหยาง” เป็นสถานที่ที่มีนาขั้นบันไดที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่ งของโลก โดยทริปเมื่อถึงเมืองฮานอยแล้วเราจะนั่งรถไฟตู้นอนไปยัง “ลาวไค” ภาคเหนือของเวียดนามถึงเช้ามืดที่สถานีรถไฟลาวไคจากนั่นเราก็ข้ามไปยังจีนข้ามไปเมืองหยวนหยางพักที่หยวนหยาง 2 คืนแล้วก็กลับมายัง “ซาปา” พัก 2 คืน แล้วกลับมายังฮานอย ทริปนี้ค่อยข้างจะเหนื่อสักหน่อยแต่ก็คุ้มค่ากับการเดินทาง
ทริปคราวๆการเดินทางของพวกเรา
วันแรก (16/03/54)
– จากภูเก็ตบินไปสุวรรณภูมิกรุงเทพไฟล์ FD3036 ออกจากภูเก็ต 23.10 น. ถึงสุวรรณภูมิเวลา 00.30 น. เรานอนกันที่สนามบินสุวรรณภูมิประหยัดค่าที่พักแอร์เย็นสบาย กว้างขวาง และปลอดภัย อิอิ อีกอย่างต้อง Check in เพื่อไป ฮานอย เวลาตี5 นอนสุวรรณภูมิสะดวกสุด
วันที่ 2 (17/03/54)
– จากสุวรรณภูมิ กรุงเทพ บินไป ฮานอย เวียดนาม ไฟล์ FD 3700 ออกจากสุวรรณภูมิ เวลา 06.30 น. ถึงฮานอยประมาณ 09.00 น.
– ถึงฮานอยเดินเล่นแถวๆฮานอย รอขึ้นรถไฟออกเวลา 21.00 น. ราคา $25 ต่อคน เราจองไปกลับประมาณ $50 เป็นห้อง 4 เตียง แบบ solf-sleeper ( ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.vietnamrailways.net/62/News49.aspx )
วันที่ 3 (18/03/54)
– รถไฟถึงสถานีลาวไคเช้ามืดหาร้านอาหารเข้าห้องน้ำทานมื้อเช้านั่งรถไปด่านจีน
– นั่งรถบัสจากเห่อโข๋วไปหยวนหยาง มี 2 รอบ คือ 06.00 กับ 09.50 น. บอกราคาว่า 69 หยวนต่อคน ใช้เวลาเดินทางราว 6-8 ชม. เย็นๆ ถึงหยวนหยางหาที่พัก
วันที่ 4 (19/03/54)
– ตื่นกันเช้ามืด (ตีสี่) เช่ารถไปรอชมพระอาทิตย์ขึ้นจากนั้นแวะไปชมวิวนาขั้นบันไดจุดชมวิวต่างๆแวะเดินชมหมู่บ้าน Hani จนถึงช่วงเย็นชมพระอาทิตย์ตก
วันที่ 5 (20/03/54)
– เช้ามีเวลาเดินชมเมืองหยวนหยางแล้วขึ้นรถบัสรอบ 7.30 น. กลับไปที่ด่านเห่อโข๋วข้ามแดนกลับเข้าเวียดนาม
– นั่งรถโดยสารเข้าไปยังเมืองซาปาใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ถึงซาปาเข้าที่พัก Cat Cat View Hotel
วันที่ 6 (21/03/54)
– เดินTrekking รอบๆหมู่บ้าน Cat Cat View เดินชมวิถีชีวิตชาวเขา
– ตอนเย็นเดินเที่ยวชม และ Shopping รอบๆบริเวณเมืองซาปา
วันที่ 7 (22/03/54)
– ตอนเช้าเดินขึ้น Ham Rong Mountain – Sapa เดินขึ้นยอดเขาเพื่อชมบรรยากาศวิวมุมสูง 306 องศา รอบเมืองซาปา
– ตอนเย็นเดินทางไปสถานีรถไฟลาวไค ตอน 2ทุ่ม เดินทางไปยัง ฮานอย เวียดนาม
วันที่ 8 (23/03/54)
– เช้ามืดรถไฟถึงสถานีฮานอยแต่เช้ามืดเข้าที่พักที่จองไว้ที่ Hanoi Grand View Hotel ( http://grandviewhotel.vn/ )
– ตอนเย็นเดินเล่นๆหาของกิน Shopping เมืองฮานอย
วันที่ 9 (24/03/54)
– ไปเที่ยว Tam Coc ซื้อทัวร์ One Day Trip ไปเช้าเย็นๆกลับถึงฮานอยก็เดินเที่ยวฯมื้อค่ำ
วันที่ 10 (25/03/54)
– เช็คเอ้าท์กันราว 6 โมงเรียกแท๊กซี่ไปสนามบินนอยไบ FD 3701 เวลา 09.15 จากฮานอยถึงสุวรรณภูมิ เวลา 11.05 น.
– อยู่สุวรรณภูมิ นั่งๆ นอนๆ รอเวลากลับภูเก็ตไฟล์ FD3031 ออกเวลา 5 โมงเย็น ถึงภูเก็ตประมาณ 6 โมงเย็น กลับบ้านนอน
สิ่งที่ควรรู้
1.00 บาท = 650 เวียดนามด่อง
1.00 หยวน = 4.50 บาท
ปลั๊กไฟ ใช้เหมือนกันกับเมืองไทย
วันเดินทางที่ 16 มีนาคม เราออกจากภูเก็ตเวลา 23.05 น. ไฟล์ FD3036 ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ก็เกือบตี1
ถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้วคืนนี้พวกจะปักหลักนอนกันที่นี่ สำหรับใครที่ไม่เคยนอนที่สุวรรณภูมิผมแนะนำว่าลองมานอนดูครับครั้งหนึ่งใน ชีวิตที่ท่านจะได้นอน โรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกพื้นที่กว้างขวางแอร์เย็นเปิด 24 ชม. ห้องน้ำมากที่สุดในโลกแถมมีเจ้าหน้าตำรวจรักษาความปลอดภัยให้ด้วยอีกอย่าง หนึ่งก็คือ มูลค่าการก่อสร้างมหาศาล
ลองดูน่ะครับครั้งหนึ่งในชีวิตกับการที่ได้นอนที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนผมนั้นครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว
เวลา 05.00 น. พวกเราตื่นนอนล้างหน้าแปรงฟัน แต่น้ำไม่ได้อาบกัน…อิอิ รอเวลา Check In เพื่อต่อ ไฟล์ FD 3700 ของ AirAsia ออกจากสุวรรณภูมิ เวลา 06.30 น. ถึงฮานอยประมาณ 09.00 น
เครื่องบินของ Airasia ลำนี้จะพาพวกเราไปยังเวียดนาม
เรามาถึง สนามบินนอยไบ ฮานอย เวียดนาม ประมาณ 9 โมงกว่า ผ่านขั้นตอนของตรวจคนเข้าเมือง เวียดนาม (สำหรับ Boarding Pass หรือใบที่กรอกก่อนเข้าเมือง สำหรับที่เวียดนามนั้นไม่ต้องกรอกน่ะครับ)
เรารับกระเป๋าเรียบร้อยแล้วก็ออกมาแลกเงิน ด่อง ที่สนามบิน อัตราแลกเปลี่ยน 1 บาทไทย เท่ากับ 650 เวียดนามด่อง อิอิ แลกเงินเสร็จมีเงินกันเป็นล้านๆๆๆ
จากสนามบินนอยไบ เข้าไปยังเมืองฮานอย เราได้ใช้บริการของรถตู้คันนี้เหมาไปในราคา 20 $ ราคาไม่แพง
เราถึงฮานอยแล้วเราเดินเล่นรอบฮานอยรอเวลาขึ้นรถไฟเวลาประมาณ 3 ทุ่ม แล้วเราก็ได้คำแนะนำจากคนที่เวียดนามแนะนำให้มากินร้านคล้ายๆแหนมเนืองบ้านเรา
เดินหาร้านอยู่ตั้งนานกว่าจะถึงร้าน ร้านนี้คนเยอะมากท่าทางจะอร่อยเขาจะเสริฟผักจานใหญ่มีเป๊าะเปี้ยทอดเส้นขนมจีนแล้วก็มีน้ำแกงมาเป็นถ้วยมีหมูทอดอาหารชุดนี้ใหญ่และเยอะมาก
เวลา 3 ทุ่ม เราก็มาถึงสถานีรถไฟกรุงฮานอยเพื่อนั่งรถไฟแบบตู้นอนเป็นห้อง 4 เตียง แบบ solf-sleeper ( ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.vietnamrailways.net/62/News49.aspx ) เพื่อเดินทางไปยังสถานีรถไฟลาวไก ถึงลาวไกก็ประมาณ 6 โมงเช้า
การซื้อตั๋วรถไฟที่ฮานอยต้องซื้อผ่านเอเยนต์เท่านั้นไม่สามารถไปซื้อที่สถานีได้เพราะมันเป็นรถไฟของเอกชนเราไปคราวนี้เราฝากเพื่อนชาวเวียดนามจัดการตั๋วรถไฟให้สำหรับราคาเราตั๋วไปกลับตกต่อคนราคาประมาณ50 US
สภาพตู้นอน 4 เตียง แบบ solf-sleeper ที่นอนสบายครับ
เช้ามืดของวันที่ 18 เวลาประมาณ 05.30น. รถไฟก็มาถึงสถานีลาวไคเป็นสถานีสุดท้ายส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะลงที่สถานีแล้วนั่งโดยสารเข้าไปยังเมืองซาปาส่วนพวกเรายังไม่เข้าซาปาเราจะไปหยวนหยางที่จีนกันก่อน
เราแวะหาอะไรทานกันก่อนที่ร้านอาหารแถวๆสถานีลาวไคหลังจากนั้นเราต้องนั่งรถไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ด่านลาวไคจากสถานีรถไฟไปยังด่านลาวไคใกล้นิดเดียว
พวกเราผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ด่านลาวไค เวียดนาม มาแล้วจากนั้นไม่ไกลเราสามารถเดินไปข้ามไปยังจีนเพื่อไปยังด่านเห่อโข๋วของจีนการเข้าจีนนั้นเราจะต้องทำวีซ่าเข้าไปยังจีนโดยสามารถทำได้จากประเทศไทยได้เลยครับ
พวกเราใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะออกจากด่านเหอโข๋วของจีน ทางด่านเขาเข้มงวดมากอย่างพวกเราช่างภาพแบกกล้องเข้าประเทศจีนเขาจะตรวจสอบแล้วให้พวกเรากรอกใบรายละเอียดว่ากล้องเรารุ่นไหนเลนส์ช่วงไหน ราคาเท่าไรกว่าจะคุยกับเจ้าหน้าที่ของจีนรู้เรื่อง
หลังจากผ่านด่านที่จีนแล้วพวกเราต้องรีบไปยังสถานีรถโดยสารเพื่อซื้อตั๋วรถบัสไปหยวนหยาง รถบัสไปหยวนหยางมี 2 รอบเท่านั้น คือ 06.00 กับ 09.50 น. ราคาประมาณ 69 หยวนต่อคน ใช้เวลาเดินทางราว 6-8 ชม
รถบัสคันนี้ครับที่พาเราไปยังหยวนหยาง
ระหว่างทางรถคนนี้แวะรับคนและขนของตลอดทาง
แล้วความทรมานพวกเราก็ได้สิ้นสุดลงกับการใช้ชีวิตในรถ 7 ชั่วโมง เราก็มาถึงหยวนหยางเราเดินหาห้องพักกันอยู่นานกว่าจะได้ห้องพักที่ถูกใจ
หลังจากเข้าที่พักเก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้วพวกเราก็เดินเล่นหาของกินสัมผัสบรรยากาศของหยวนหยางกัน
ขอจบตอนแรกไว้แค่นี้ก่อนน่ะครับ ตอนที่ 2 จะพาทุกท่านไปชมนาขั้นบันไดที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก
สามารถดูรูปหยวนหยาง จีน สวยๆของผมได้ที่ http://konphuket.multiply.com/photos/album/44/44
ติดตามชม แบกเป้เที่ยว หยวนหยาง ซาปา ฮานอย เวียดนาม ตอนที่ 2
หมวดหมู่:เวียดนาม
น่าไปมั้งจัง
ถูกใจถูกใจ
ไม่เคยไปนอนสุวรรณภูมิมาก่อน ขอบอกว่า ‘สุดยอด’ 555+
ควรที่จะลองสักครั้งในชีวิต จิงๆ (แต่คงหนาวน่าดูเลย บรื๋อๆๆ)
ถูกใจถูกใจ
หนาวมากเลยครับ….
ถูกใจถูกใจ
ตู้นอนหรูมากเลยค่ะ … เพิ่งเคยเห็น
เคยนั่งรถนอนจากโฮจิมินห์ไปดาลัด ก็ว่า ไม่เคยเห็นแล้ว ยังมีตู้นอนแบบนี้มาอีก เหอๆ
ถูกใจถูกใจ
ไปมาแล้วค่ะ … สวยงามมาก ไปหน้าฝนก็เที่ยวแบบฝนๆ รถไฟตู้นอนก็โอเคค่ะ
ถูกใจถูกใจ
น่าไปจังเลย บรรยากาศคล้ายที่ประเทศจีนเหมือนกันนะคะเนี่ยะ
ถูกใจถูกใจ