คราวนี้ผมได้ออกจากจังหวัดภูเก็ตอีกครั้ง โดยครั้งนี้ได้กลับไปยัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไปงานแต่งงานเพื่อนสนิทผมตอนสมัยเรียนมหาลัยราชภัฏสงขลาด้วยกัน ตอนนี้เพื่อนผม ไอ้ตาล คงจะสบายแล้วหรือว่า ตกนรก ก็ไม่รู้มัน 555 แต่ก็ขอแสดงความยินดีกับมันด้วย
มาหาดใหญ่คราวนี้ผมคงไม่พลาดที่จะนำรูปสวยๆ นำเสนอเรื่องราวการท่องเที่ยวในแบบของผมอีกเช่นเคย ก่อนผมจะมาหาดใหญ่คราวนี้ ผมได้ยินสถานที่ที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ อ.หาดใหญ่ มาบ้างและเคยดูในเว็บไซต์ที่มีหลายๆคนเคยเอามารีวิวและลงรูปสวยๆมาให้ดู สถานที่ที่ผมจะพาไปเที่ยวก็คือ “ตลาดน้ำคลองแห หาดใหญ่” ท่านคงฟังไม่ผิดหรอกครับนึกว่าผมจะเขียนผิดหล่ะสินึกว่าจะเป็นตลาดน้ำดำเนินสะดวกหรือเปล่า 5555 ขอบอกเลยว่าไม่ผิดแน่นอนครับแรกๆผมก็ยังงงเล็กน้อยว่า หาดใหญ่จะมีตลาดน้ำได้อย่างไงแต่แล้วผมได้ไปสัมผัสด้วยตาของตัวเองต้องขอตบมือดังๆให้กับ อบต.คลองแห ที่หาดใหญ่จริงๆว่าทำได้ดีมากมีการจัดการท่าเรือได้อย่างดี และมีการประชาสัมพันธ์ตลาดน้ำคลองแหให้เป็นที่รู้จักอีกด้วย เขาชูจุดเด่นของตลาดน้ำแห่งนี้ว่าเป็น “ตลาดน้ำแห่งแรก และ แห่งเดียวของภาคใต้” โอ๊วววเข้าใจคิดจริงๆ
สำหรับตลาดน้ำคลองแหนั้น จะเปิดเฉพาะ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แค่ 3 วันเท่านั้น แต่ตั้งเวลา 5 โมงเย็น ถึง 4 ทุ่ม ท่านที่จะไปเที่ยวก็อย่าไปผิดวันก่อนแล้วกัน สำหรับวันที่ผมไปนั้นปรากฏว่ามีคนเยอะจริงๆครับรถจอดกันเต็มลานจอดรถที่ทาง อบต จัดไว้ให้แต่ยังมีรถบัสนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซีย ประมาณ 3-4 คันจอดกันเต็ม แสดงว่าได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ตลาดน้ำแห่งนี้จะไม่มีการพายเรือขายของเหมือนตลาดน้ำดำเนินสะดวกแต่จะจอดเทียบท่าขายของเรียงรายกันตลอดท่าเรือ ของขายก็จะเป็นอาหารพื้นบ้านของภาคใต้ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของที่ตลาดน้ำแห่งนี้ก็คือจะภาชนะจากธรรมชาติก็คือ กะลามะพร้าว หรือ พลก (ภาษาใต้) นำมาใส่ของกินครับ อันนี้แหล่ะที่ผมชอบๆๆ
สุดท้ายนี้ถ้าใครจะมาเที่ยวหาดใหญ่แล้วผมขอแนะนำให้มาแวะที่ตลาดน้ำคลองแหดูน่ะครับรับรองว่าจะได้สัมผัสความแปลกใหม่ของภาคใต้อีกแห่งหนึ่งเหมือนกัน ลองชมรูปที่ผมนำมารีวิวใน blog ดูน่ะครับก่อนจะไปเที่ยวกัน รูปถ่ายทั้งหมดผมใช้กล้องคอมแพคตัวเก่าของผมคราวนี้ขี้เกียจแบกเจ้า 350 D ไปก็เลยเอากล้องคอมแพค Canon A95 เป็นกล้องตัวโปรดของผมอีกตัวหนึ่ง
ตำนานคลองแห
หลายร้อยปีมาแล้ว มีคลองเล็กๆ สายหนึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของวัดคลองแหในปัจจุบันชื่อว่า “คลองลาน” กับคลองเล็กๆ อีกสายหนึ่งจากทางทิศใต้ชื่อว่า”คลองเตย” ไหลมาบรรจบกันตรงบริเวณเนินดินและป่ารกครึ้มที่ชาวบ้านเรียกว่า “โคกนกคุ่ม” ก่อเกิดเป็นลำคลองสายใหญ่ชื่อว่า “คลองแห” ในวันนี้ มีเรื่องราวเล่าขานเป็นตำนานสืบมา
ผู้เฒ่าผู้แก่ในตำบลคลองแหได้เล่าสืบต่อกันมาตั้งแต่โบราณ ว่าในครั้งที่มีการสร้างเจดีย์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่เมืองตะมะลิง หรือเมืองตามพรลิงค์ คือจังหวัดนครศรีธรรมราชในปัจจุบันนั้น ทางเมืองตะมะลิงได้เป่าร้องประกาศไปทั่วทุกหัวเมืองเพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสได้มาร่วมเฉลิมฉลองในพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ในพระเจดีย์
ฝ่ายชาวเมืองกลันตันซึ่งอยู่ห่างไกลจากเมืองตะมะลิงมากกว่าหัวเมืองอื่น ก็รวบรวมกันออกเดินทางมุ่งสู่เมืองตะมะลิง ค่ำมืด ณ สถานที่ใดก็พักแรมที่นั่น ครั้นมาถึงสถานที่ซึ่งเรียกว่าคลองแหในปัจจุบัน เห็นว่าเป็นสถานที่สบายพื้นที่เป็นเนินสูงมีต้นไม้ใหญ่ปกคลุม เป็นคุ้งคลองน้ำสะอาดใส เมื่อพักแรมหนึ่งคืนแล้ววันรุ่งขึ้นก็เตรียมการเดินทางต่อไป ขณะที่จะเดินทางต่อไปนั้น มีขบวนคนเป็นจำนวนมากเดินทางมาจากทิศเหนือบ่ายหน้าลงใต้ผ่านมาทางนั้น สอบถามได้ความว่าเดินทางกลับจากงานบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่เมืองตะมะลิง เมื่อทราบว่างานได้เสร็จสิ้นแล้ว ชาวเมืองกลันตันก็ล้มเลิกความตั้งใจและจะเดินทางกลับ แต่มาคิดว่าสิ่งของต่างๆ ที่เตรียมมาเพื่อจะนำไปบรรจุในเจดีย์เป็นพุทธบูชา เช่นแก้วแหวนเงินทอง ไหนๆ ก็ตั้งใจจะถวายเป็นพุทธบูชาจึงไม่นำกลับไป รวบรวมสิ่งของเหล่านั้นมากองไว้ อธิษฐานเป็นพุทธบูชาแล้วขุดหลุมฝังไว้ตรงพื้นที่สามเหลี่ยมที่คลองสองสายมาบรรจบกัน คือคลองลานตรงมาจากทิศตะวันตก และคลองเตยที่มาจากทิศใต้ แล้วเกิดเป็นคลองสายใหญ่ขึ้น สถานที่ดังกล่าว ปัจจุบันปรากฏเป็นเนินสูงมีน้ำล้อมรอบ ชาวบ้านเรียกว่า“โคกนกคุ่ม” (สันนิษฐานว่าบริเวณนั้นเคยมีนกคุ่มอยู่มาก)
สำหรับเครื่องประโคมโหมแห่ต่างๆ ที่มาในขบวน เช่น ฆ้อง(ใบใหญ่) กลอง ฉิ่ง ฉาบ ก็นำมากองไว้ อธิษฐานเป็นพุทธบูชา แล้วก็จมลงในคลองสายใหญ่นั้น แต่นั้นมาชาวบ้านจึงเรียกคลองนั้นว่า”คลองฆ้องแห่” แต่คนทางใต้ไม่นิยมพูดคำที่มีหลายพยางค์ ต่อมาคำว่า”ฆ้อง”จึงหดหายไป เหลือเป็น”คลองแห่” แต่เมื่อพูดเป็นสำเนียงถิ่นใต้แล้วเสียงวรรณยุกต์เอกไม่มี คำว่าแห่จึงพูดเป็นแห และเรียกคลองแหมาจนทุกวันนี้
จากเว็บ http://www.klonghaecity.org
หมวดหมู่:ท่องเที่ยวทั่วไทย
น่าไปเที่ยวจังเลยครับ
มุมมองภาพ ก็สวยดีจริงๆ
หาดใหญ่ๆๆๆๆ แล้วจะเที่ยวตามรอยครับ
ถูกใจถูกใจ
น่าเที่ยวมากเลยครับ
มุมมองของภาพได้บรรยากาศมากๆ
ถูกใจถูกใจ
อยากได้คำแนะนำอ่ะคะ..รบกวนติดต่อกลับได่มั้ยคะ.เนื่องจากจะลงใต่ในอีกไม่กี่วันแต่ไม่รู้อารายเลย
ถูกใจถูกใจ
เพิ่งกลับมาเหมือนกัน ถ่ายรูปมาด้วย แต่ไม่มีโอกาสได้นำมาโชว์ให้เพื่อนๆ ดู วันนั้นฝนตกพอดี แต่ตกไม่นาน โชคดีมากเลย อากาสก็ดี ของกินพื้นเมืองอร่อยๆ ทั้งนั้น ที่สำคัญไม่แพงเลย..ถูกมักๆ..ลองไปเที่ยวน๊ะครับ
ถูกใจถูกใจ
อิอิ นึกว่าใคร พี่ชัย เมโทรโปร นี่เอง ถ่ายแล้วเอามาโชว์ในเว็บผมก็ได้ครับ
ถูกใจถูกใจ
น่าไป น่ากิน น่าเที่ยว แต่ไกลจัง
เซ็งสงกรานต์ไม่ได้ไปไหนเยกำ
สำหรับคนที่กำลังมองหาโปรแกรมบัญชีดีๆนะครับ
ยังไงก็ขอฝากด้วยเน้อออ
http://bucheethai.worpress.com
แวะกลับไป Comment ก็ยังดี
ถูกใจถูกใจ
คราวหลังไป อย่าลืมไปกินกระเพาะปลานู๋กบด้วยน่ะ
ถูกใจถูกใจ
อาลับยิ่ง นายกหัวมัน แห่งคลองแห
ขุนพลแห่งนานน้ำคลองแห
ถูกใจถูกใจ
ช่วยกันส่งใจให้ พี่สุ (เมียนายกหัวมัน)ขอให้โชคดี มีชัยชนะ คนดีย่อมมีคนรัก
ถูกใจถูกใจ
และแล้ว คุณสุฯ ภรรยาอดีตนายกหัวมัน ก็ชนะขอให้สานงานเก่าให้สำเร็จ หนึ่งเสียงจะคอยให้กำลังใจอยู่ห่างๆครับ
ถูกใจถูกใจ
หมูปิ้ง ข้างบนที่ติดกับร้านขนมดอกโดน อร่อยมากๆๆๆ ผมชิมแล้ว
555+ จิงครับ สุโค่ย
ถูกใจถูกใจ
ขอแนะนำสถานที่พักไปมาแล้วน่าพักดี อยู่ริมคลองแหเลยนะครับ
เดินทางไปได้ทั้งทางน้ำ และก็ทางบก ลองเข้าไปดูนะในเว็ปของเค้า
http://www.rimnumresort.ob.tc/index.html
ถูกใจถูกใจ